เทคนิคการลงสีบนฝาผนังจิตรกรรมไทย : วัดราชาธิวาส


เทคนิคการลงสีบนฝาผนังจิตรกรรมไทย




ภาพจิตรกรรมฝาผนังวัดราชาธิวาส



จากภาพที่แสดงด้านบนจะเห็นได้ถึงความแตกต่างระหว่างงานจิตรกรรมฝาผนังในวัดราชาธิวาส กับในวัดไทยอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นลักษณะของลายเส้น การไล่สีลงสี รวมไปถึงท่าทางอิริยาบถของคนในภาพทำให้ภาพมีมิติ มีforeground middle ground และ background ครบตามองค์ประกอบของภาพ  เนื่องจากว่าที่วัดราชาธิวาสมีการใช้จิตรกรชาวอิตาลี ชื่อว่า คาร์โล ริโกลี (Carlo Rigoli) และเทคนิคการวาดแบบการเขียนสีบนปูนเปียก หรือ FRESCO ทำให้ภาพจิตรกรรมฝาผนังในวัดราชาธิวาสมีความโดดเด่นและไม่เหมือนที่อื่นๆ ซึ่งส่วนมากจะเป็นเทคนิกคการลงสีฝุ่นแบบแห้ง หรือ TEMPERA และการจัดวางองค์ประกอบภาพที่ต่างกันนั่นเอง





ในที่นี้จะวิเคราะห์ถึงที่มา ความแตกต่าง และข้อดีข้อเสียของการลงสีในแต่ละเทคนิคที่พบเห็นในงานจิตรกรรมฝาผนังตั้งแต่สมัยอดีต

          เทคนิคการลงสีฝุ่นแบบแห้ง TEMPERA ก็คือก่อนจะลงสีต้องรอให้ปูนฉาบแห้งสนิท โดยเทคนิคการลงสีฝุ่น ได้รับอิทธิพลมาจากต่างประเทศแต่ได้นำมาปรับใช้ด้วยภูมิปัญญาไทย วัสดุท้องถิ่นในไทย เช่น กาวน้ำเม็ดมะขาม กาวจากยางต้นไม้ ที่นำมาผสมกับตัวสีแล้วทำให้ลงสีได้ง่ายและเกาะติดกับผนังได้ดี





เทคนิค FRESCO
เทคนิค TEMPERA
ขั้นตอน/กระบวนการ
ลงบนปูนที่เปียกอยู่
ลงบนปูนที่แห้งสนิท
ข้อดี
สีมีความคงทนกับผนัง และไม่หลุดง่าย
ลงสีได้ง่ายกว่าเทคนิค FRESCO
ข้อเสีย
กระบวนการลงสีที่ต้องใช้ฝีมือและความชำนาญเนื่องจากต้องทาลงบนปูนที่ฉาบสดๆ
-สีหลุดลอกง่ายเมื่อเจอสภาพอากาศและกาลเวลา
- เมื่อเวลาผ่านไปสีที่เห็นอาจไม่ตรงกับสีดั้งเดิม


ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์ตารางเปรียบเทียบแล้วเห็นได้ว่าเทคนิค FRESCO ทำให้สีมีความคงทน แล้วคงสภาพสีดั้งเดิมได้นานกว่าเทคนิคสีฝุ่นแบบแห้งก็จริง แต่เหตุผลที่งานจิตรกรรมฝาผนังไทยในอาคารเก่าแก่ส่วนมากนิยมใช้เทคนิคแบบแห้งก็เพราะว่า งานจิตรกรรมไทยมีการใช้ลวดลายที่ค่อนข้างประณีต ละเอียดอ่อน และต้องใช้เวลาในการวาดนาน ดังนั้นจากความคิดเห็นการลงสีบนผนังแห้งจึงนิยมมากกว่าเพราะลงง่ายและไม่ต้องเร่งรีบในการลงสีให้ทันก่อนปูนจะแห้งแบบเทคนิค FRESCO อีกทั้งการใช้ปิดผิวด้วยทองในบางส่วนก็เหมาะสำหรับการลงสีแบบแห้งมากกว่า


ejournals.swu.ac.th › index.php › ENEDU › article › download

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม