เชฟเอียน กับแนวคิด IKIGAI

จากที่ได้เรียนเรื่อง ikigai ทำให้ลองกลับมาคิดเกี่ยวกับตัวเอง ว่าตัวเองมีคำตอบอะไรในช่องไหน ตัวเองอยู่ในช่องไหนของผังวงกลมนั้น...

จากที่ได้ดูรายการรายการหนึ่ง เป็นรายการเกี่ยวกับสัมภาษณ์คนคนหนึ่งที่มีชื่อเสียง มีอาชีพที่โด่งดังในไทยและอาจในต่างประเทศ เราได้ไปดูหลากหลายคน ไม่ว่าจะเป็น เชฟเอียน , ปอมชาน นัก illustrator ทำให้เรากลับมาคิดวิเคราะห์ว่า ที่เขาประสบความสำเร็จนั้น เกี่ยวข้องกับแนวคิดของ ikigai อย่างไร 

บทความนี้จะกล่าวถึงชีวิตของ….

เชฟเอียน

"ผู้ประสบความสำเร็จในด้านวงการอาหาร”

เชฟเอียน พื้นเพแล้วเขาเป็นแค่ลูกของแม่ค้าขายข้าวแกง แต่สามารถเติบโตมาเป็นเชฟที่มีชื่อเสียงและโด่งดังจนทุกคนรู้จักได้นั้น ชีวิตมันไม่ง่าย ถ้าหากเชื่อมโยงกับหลัก ikigai แล้ว ก็มีเหตุผลที่ทุกวันนี้เขาใช้ชีวิตเพื่ออะไร?

จริงๆแล้วในช่วงแรกของชีวิตที่เขายังเรียนหนังสืออยู่ เขายังไม่ได้รักในการทำอาหาร ไม่ได้รู้สึกว่าการทำอาหารคือสิ่งที่จะทำให้เป็นอาชีพของเขาในอนาคต เขาไปเรียนภาษาที่ประเทศอังกฤษ แล้วคิดว่าจะเรียนเกี่ยวกับธุรกิจด้วยซ้ำ แต่เขาก็ได้มาเจอจุดเปลี่ยนที่ทำให้เขาหันมาสนใจด้านอาหารก็คือ เขาได้ไปทำงานเป็นเด็กล้างหม้ออยู่ในร้านอาหารที่อังกฤษ เพื่อต้องการที่จะฝึกภาษา แต่เนื่องจากชีวิตล้างจานในห้องครัวนั้นไม่ได้ช่วยให้เขาฝึกภาษามากเท่าไหร่ เขาจึงมาทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟในร้านแทนเพื่อฝึกภาษา และหาเงินเพื่อเรียนต่อไปด้วย แต่ว่ามีครั้งหนึ่งที่เขฟในร้านลาหยุด และขาดคนงาน หัวหน้าเชฟเลยให้เขาไปช่วยเป็นลูกมือ สิ่งนี้แหละ ที่เราคิดว่ามันคือ’โอกาส ‘ บางครั้งชีวิตคนเราก็อาจเป็นเพราะ โชคชะตา ด้วยเช่นกัน ในวันนั้นหลังจากที่เขาได้เป็นผู้ช่วยเชฟอยู่วันหนึ่ง และเขาได้รับโอกาสโดยที่ผู้จัดการยื่นโอกาสให้เขาเรียนหลักสูตรอาหาร 

LOVE…เขามีความรักในการทำอาหารเริ่มจากที่เขาได้อ่านบทความเกี่ยวกับเชฟที่ประสบความสำเร็จ ได้เรียนรู้ว่าประวัติเขาเป็นยังไง เขาไม่เคยอ่านพวกตำราทำอาหารเลย เพราะอ่านแล้วไม่รู้เรื่อง ไม่รู้ว่าต้องเริ่มยังไง ต้องซื้ออะไรบ้าง ตรงนี้น่าจะเป็นจุดประกายเรื่องยึดการทำอาหารเป็นอาชีพนี้ 

GOOD...เชฟเอียน ได้ไปเรียนในหลักสูตรทำอาหารที่ประเทศอังกฤษ แต่มีความคิดว่าแค่เรียนในที่โรงเรียนนั้นเป็นเพียงแค่พื้นฐาน จบมาก็มีเชฟกว่าหลายร้อยคน นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาเก่งพอที่จะมาประกอบอาชีพนี้ได้ แต่เขามีความคิดที่จะพัฒนาตนเองมากขึ้นไปอีก โดยการไปเรียนรู้จากเชฟ micchelin star โดยตรงในร้านอาหาร หากเราจะเก่งและได้รับการยอมรับ จริงๆ เราไปฝึกตามร้านอาหารชื่อดังนี่จะได้ประสบการณ์และถือว่าเป็นสิ่งที่ให้ทักษะกับเรา และทำให้เราพัฒนาตนเองขึ้น การได้ Ranking “Asia’s 50 Best Restaurants 2017” ของร้านอาหารเป็นการการันตีได้ว่าเขา good ในเรื่องการทำอาหาร ไม่ใช่เพียงแค่รสชาติแต่ความคิดสร้างสรรค์ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้อาหารของเขาต่างจากของคนอื่น

NEED… อาหารถือเป็นปัจจัยหลักอยู่ใน 4 ปัจจัยของชีวิตมนุษย์ เราคิดว่าอาชีพเชฟเป็นอาชีพที่ไม่มีวันขาดแคลน มนุษย์ทานอาหารอยู่ทุกวัน แน่นอนว่าการทำอาหาร อาชีพเชฟยังคงเป็นสิ่งที่โลกต้องการ ส่วนตัวเชฟเอียนนั้น การที่จะทำให้ผู้คนจดจำเขาได้ ก็ขึ้นกับฝึมือของเขา ทุกวันนี้เขามีร้านอาหารมากมายไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารร้านแรกที่เปิดที่ New York หรือในไทยก็มีร้านอาหาร Issaya , Smith , Hyde and Seek และอื่นๆที่ต่างประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นที่ปรึกษาเกี่ยวกับการเปิดร้านอาหาร เป็นพิธีกรรายการอาหาร และ ออกรายการเชฟกระทะเหล็ก

ทุกๆวันนี้เขาแทบทำงานทุกวัน ไม่มีวันหยุด การทำงานเกี่ยวกับอาหาร ถือว่าเป็น Love + Good = Passion แม้ว่าจะเหนื่อยแต่เขามีความสุขกับการได้ทำสิ่งนี้ เราคิดว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับการใช้ชีวิตและการประกอบอาชีพ

สุดท้ายนี้เมื่อลองมองภาพรวมแล้ว ใจกลางของ IKIGAI ทุกคนอาจไม่ได้มีมาตั้งแต่เกิด แต่วงกลมต่างๆเหล่านี้เกิดขึ้นจากการเรียนรู้ ฝึกฝน และพัฒนา การที่เชฟเอียนเป็นเชฟที่โด่งดังและมีคนรู้จักมากมาย เขาไม่ได้คิดว่าตัวเขาประสบความสำเร็จแล้ว แต่เขานั้นยังพัฒนาตัวตนเขาต่อไป ยังไม่หยุดที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ แล้วในทุกๆว้นนี้ตัวเราเองมีชีวิตอยู่เพื่ออะไร?